เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ทนายตั้มก็ได้มีการเดินทางไปที่สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อไปพบพนักงานสอบสวน
ทนายตั้มเผยว่า วันนี้ตนเองมาให้การในฐานะพยาน วันนี้มี 2 เรื่อง ก็คือ วันที่ได้ไปพบกับคุณปอและคุณโรเบิร์ต
ตอนหลังจากเกิดเหตุ โดยตนเองได้มีการมาแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมกับทางตำรวจ ส่วนประเด็นที่คุณปอกับคุณโรเบิร์ต
ติดต่อมาหาตนเองตอนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เราคุยกันไม่เกิน 15 นาที ส่วนใหญ่จะเป็นการมาเล่าถึงเหตุการณ์
และก็มาปรึกษาเพื่อที่จะเตรียมตัว เพราะว่าทั้งคุณปอและคุณโรเบิร์ตทราบดีอยู่แล้วว่าตนเองเป็นทนายที่มีความสามารถ
แต่ว่าตนเองไม่เคยรู้จักทั้งสองคนมาก่อนเลย โดยไม่ขอลงรายละเอียด อ ะ ไ ร ตนเองได้แนะนำว่า ถ้าคนขับเรือเป็นเจ้าของ
และก็มีอีกคนขับเรือด้วย ทั้งคู่จะ โ ด น ดำเนินคดี ทั้งคู่สีหน้ากังวล แต่ไม่ได้มีการพูดเรื่องของการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง
หรือว่าปรึกษาเรื่องหลุดคดีใดๆ ส่วนประเด็นของคุณแม่ของแตงโมไปออกรายการโหนกระแส ยอมรับเลยว่า ฟังแล้วก็ตกใจ
เพราะว่าตนเองก็มีลูก พร้อมยืนยันว่าลูกประเมินค่าไม่ได้ ขอให้คุณแม่ของแตงโม เฮงๆปังๆแล้วกัน ส่วนเรื่องการประเมิน
ค่าแตงโม 30 ล้าน ขึ้นอยู่กับอีกฝ่ายจะจ่ายหรือเปล่า ถ้าตกลงกันได้ก็ไม่เป็นไร แต่อีกฝ่ายก็อาจจะมองว่า คุณแม่พึ่งมาดูแล
แตงโมไม่นาน เ งิ น อาจจะไม่ถึง การจ่าย เ งิ น แบบนี้เป็นการบรรเทาโทษ โทษจะเบาลง โดยคดีนี้ไม่สามารถยอมความได้
เพราะว่าเป็นอาญาแผ่นดิน อย่าไปเห็นแก่ใครๆนอกจากแตงโม แตงโมควรจะได้รับความยุติธรรม น้องจะได้หมดห่วง
ทนายตั้มเผยอีกว่า ตนเองอยากจะให้ตำรวจไปทดลองเกี่ยวกับใบพัด ฟินเรือ และหางเสือด้วย เพื่อตรวจสอบเรื่องรอยตัด
อาจจะใช้เนื้อหมูหรือซิลิโคนในการทดสอบก็ได้ เพราะว่าในหลายๆคดีที่เป็นแบบนี้ก็ต้องมีการทดลองหมด
อยากให้เป็นจุดที่ตำรวจควรจะให้ความสำคัญด้วย ส่วนเรื่องเรือ ยืนยันว่าตนเองแค่ดูเรือ ไม่ได้สัมผัสวัตถุพยานใดๆ