จากกรณีที่เป็นกระแสอยู่ตอน นี้ สำหรับ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ แ ห่งวัดสร้อยทอง ที่ออกมาไลฟ์สอนธรรมะ
จนมีคนมากมายเข้ามาฟัง และสนใจ เพราะท่านนั้น มีรูปแบบการสอนธรรมะที่เข้าถึงคนง่ายและมีความขำขันให้คนฟังได้คลายเครียด
โดยท่านนั้น มีคำคม และวลีเด็ดมากมาย และมีการสอดแทรกธรรมะ ให้คนรุ่นใหม่เข้าใจได้ง่ายๆ
ซึ่งก่อนจะสร้างปรากฏการณ์ที่ทำเอาหลายๆคนอึ้ง เมื่อท่านนั้นไลฟ์กับพระมหาสมปอง พระรุ่นพี่ร่วมวัดเดียวกัน
และมีผู้รับชมพร้อมกันมากกว่าสองแสนคน ทั้งคนในวงการบันเทิง เพจดังมากมาย ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นระหว่างที่ท่านทั้งสองไลฟ์พูดคุยกัน
ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นไลฟ์ธรรมะที่มีคนดูมากที่สุดก็ว่าได้ สร้างเ สียหัวเราะและความบันเทิงให้ผู้รับฟัง พร้อมได้สอนธรรมะอีก้วย
ทั้งนี้พระมหาไพรวัลย์ ก็ออกมายอมรับว่า ตนเข้าใจดี ที่ต้องมีชาวพุทธส่วนหนึ่ง ที่ไม่บอกว่าพระทำไม่เหมาะสม ไม่ควรทำ
โดยท่านได้ออกมาโพสต์ผ่านทางเฟสบุคว่า ไม่สำรวมแบบ นี้ใครจะศรัทธา หัวเราะ = ศาสนาเสื่อม พร้อมกับเล่าเรื่องราวของแม่ลูกคู่หนึ่งให้ฟัง
ท่านนั้นยอมรับว่าตัวเองได้มีรูปแบบการสอนและเผยแผ่ศาสนาที่ต่างออกไป แต่ไม่ว่าถ้าคนจะมองแบบไหน โดยได้เอ่ยถึง คุณแม่ผึ้งและลูกสาวชื่อว่า พิ้งกี้
ได้มาพบท่าน และฝ่ายคุณแม่ได้เล่าว่า เมื่อสองปีก่อนลูกสาว ขอเลิกนับถือศาสนา ซึ่งคุณแม่ก็ตกใจ แต่ก็ยอม อยากฟังเหตุผลของลูก
ซึ่งฝ่ายลูกได้บอกว่า ไม่อยากนับถือ และกลายเป็นคนไม่มีศาสนา แต่ว่ามีตนเองและมีแม่ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจก็พอ พร้อมทั้งยังสักคำว่าแม่ไว้ที่หน้าอก
คุณแม่ได้บอกว่าการที่ลูกกับแม่มีศาสนาที่ไม่ตรงกันก็เกิดความลำบาก เพราะแม่จะไปทำบุญลูกก็จะรอนอกวัดเสมอ หรือแม้แม่อยากไปปฏิบัติธรรม
แต่ลูกไม่ไปด้วย คุณแม่ก็เลยไปไม่ได้ แต่ในช่วงหลังมานี้ ได้เห็นลูกนั่งฟังธรรมะของพระอาจารย์ ก็รู้สึกดีใจ เพราะเราลองชวนเขาไปทำบุญเขาก็ตอบตกลง
ถึงแม้เธอจะยังไม่ได้เรียกว่านับถือศาสนาพุทธก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ปิดโอกาสเหมือนตอนแรก โดยพระอาจารย์ยังยืนยันว่าไม่สามารถทำให้ใครพอใจ
ในรูปแบบการสอนได้ทุกคน แต่ท่านมั่นใจว่าทุกคนจะเลื อกเสพในสิ่งที่เหมาะและถูกของตนเองพร้อมกับทิ้งท้ายว่า
อย่ายอมให้อาตมากลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า ความทุกข์หรือความขัดข้องใจของใครเลย สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ควรจะท่องจำให้ได้แบบท่านนายกกันบ้าง